ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ บ้านและซื้อรถยนต์มือสอง

ในยุคเศรษฐกิจ ที่ไม่ค่อยจะแน่นอนสักเท่าไหร่ หลายๆ ท่าน อาจลังเลใจที่จะเลือกซื้อบ้านใหม่และรถยนต์มือใหม่  เนื่องจากการซื้อบ้านใหม่และรถนั้น ไม่ใช่เป็นเรื่องง่ายๆ เอาเสียเลย คุณจำเป็นต้องแบกภาระหลักล้าน กว่าจะได้มาสักหลัง กว่าจะได้นอนหลับอย่างสบายใจ เหน็ดเหนื่อยกันพอสมควร บางคนอาจต้องไปกู้ยืม ก็ติดหนี้ ติดสินกันไปอีก เพิ่มทางเลือกให้กับเพื่อนๆ ที่งบน้อย หรือบางคน อาจจะไม่จำเป็นต้องงบน้อยก็ได้ แต่คิดว่า บ้านมือสอง รถยนต์มือสอง ก็เพียงพอต่อความต้องการแล้ว ลองอ่านกันดู กับ ข้อควรพิจารณนาเล็กๆ น้อยๆ ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกซื้อ บ้านมือสอง และรถยนต์มือสอง

ข้อควรรู้ ควรสังเกตให้ดี ก่อน เลือกซื้อบ้านมือสอง
– สิ่งแรกที่เราเห็น นั่นคือรอบๆ อาคาร ต้องสังเกตด้วยตาก่อน ว่าอาคารหรือ บ้านดังกล่าวนั้น เอียง ทรุดตัวหรือไม่ หากมีการเอียง หรือทรุดตัว ส่วนใหญ่มักเกิดจากปัญหารากฐานไม่แข็งแรง กรณี บ้านทรุดตัวนี้ หากซื้อไปแล้ว ต้องมีค่าซ่อมแซมอีกเยอะมาก
– สอบถามประวัติ คุณจำเป็นต้องสอบถามประวัติจากผู้ขาย หรือเจ้าของบ้านเดิม เช่น สร้างมานานกี่ปี ใครเป็นผู้ออกแบบ ใครเป็นผู้ก่อสร้าง ใครเป็นเจ้าของเดิม
– ตรวจสอบระบบน้ำ ให้ทดสอบการเปิด ดูว่าตัวไหนดีไม่ดี และจากนั้น ปิดให้หมดทุกตัวทั้งในและนอกบ้าน ทำการตรวจเช็คมิเตอร์วัดน้ำ หากตัวเลขบนมิเตอร์ยังวิ่ง นั่นอาจหมายถึงว่า ระบบน้ำภายในมีการรั่วซึม ซึ่งต้องรีบเร่งซ่อมแก้ไขหลังซื้อบ้านมือสอง
– ตรวจสอบฉนวนห่อหุ้มไฟ โดยปกติ หากบ้านมีอายุนาน 30 ปี วัสดุเหล่านี้ ก็จะเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา ควรรื้อเปลี่ยนใหม่ยกชุด เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายไฟลัดวงจรในภายหลัง
– ตรวจสอบ รั้วบ้าน ว่ามีการทรุดเอียงหรือไม่ บางบ้านอาจเกิดน้ำเซาะ จากน้ำท่วม รั้วบ้านอาจเกิดการทรุดเอียง ก็จำเป็นต้องทุบทิ้งแล้วสร้างรั้วใหม่

อีกข้อที่สำคัญ อาจไม่เกี่ยวกับตัวบ้าน แต่เป็นปัจจัยสภาพแวดล้อมของบ้านมือสอง คุณจำเป็นต้องสำรวจสภาพความเป็นอยู่ อย่าตัดสินใจซื้ออย่างรวดเร็ว คุณอาจเข้ามาแวะๆ เวียนๆ ขับรถเวียนชมบรรยากาศโดยรอบ หลายๆ ครั้ง หากมีครั้งใด เริ่มไม่ชอบ ก็ให้เปลี่ยนที่ใหม่ แต่หากมาทุกครั้ง ปลื้มทุกครั้ง บ้านหลังนี้ ก็อาจเป็นบ้านที่คุณจะอยู่ไปจนตลอดบั้นปลายชีวิต การเลือกซื้อบ้านนั้นเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะบ้านใหม่ หรือบ้านมือสอง ควรสำรวจ สังเกต ให้ดีๆ ก่อนตัดสินใจซื้อเสมอ

คำแนะนำในการเลือกซื้อรถมือสอง
ถ้าเรามีความละเอียดรอบคอบเพียงพอในการเลือกซื้อ ไตร่ตรองถี่ถ้วนก่อนการตัดสินใจซื้อ ก็จะทำให้เรามีความมั่นใจมากขึ้นว่าซื้อแล้วได้ใช้งานคุ้มค่า รถมือสองก็เป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่มีเงินในกระเป๋าจำกัดอีกทั้งไม่อยากเป็นภาระมานั่งผ่อน ทุกเดือน รถยนต์มือสอง ถือได้ว่าตอบสนองเราได้เป็นอย่างดีเพียงแต่เราดูแลบำรุงรักษารถให้ดี ก็ใช้ไปได้อีกนาน

10 วิธีง่ายๆ ดูรถยนต์มือสองก่อนจะซื้อ
1. ส่วนภายในด้านหน้าและระบบไฟฟ้า เมื่อเราได้ลองนั่งที่นั่งคนขับ ทุกส่วนที่อยู่ในแผง Console เราต้องตรวจสอบว่าทุกอย่างสามารถทำงานได้ดีหรือไม่
2. ส่วนภายในด้านหลังและระบบการทำงาน ส่วนใหญ่บริเวณนี้ก็คงต้องตรวจสอบสภาพเบาะภายใน อุปกรณ์ที่มีอยู่ด้านหลัง
3. ตรวจสอบตัวถังรถยนต์มือสองสำหรับบางท่านที่ไม่คุ้นเคยอาจจะยากสักหน่อย แต่เคล็ดลับง่าย ๆ หาเพื่อนที่ใช้รถ รุ่นที่เราหมายตาไว้ ให้ช่วยดูให้ ด้วยความคุ้นเคยเพื่อนจะสามารถบอกเราได้ถึงร่องรอยที่ผิดปกติ แต่ถ้าหาคนรู้จักไม่ได้ ก็คงต้องอาศัยผู้ขายที่มีมาตรฐานไว้ใจได้เท่านั้น
4. เปิดฝากระโปรงหน้า คราวนี้ดูจะยากขึ้นไปอีกขั้น แต่เบื้องต้นดูง่าย ๆ ว่ามีคราบน้ำมันรั่วซึมอยู่หรือไม่ ที่ชี้ให้คุณรู้ว่าคุณกำลังซื้อรถมาขับ หรือซื้อมาซ่อม ถ้าจะให้ดีหาคนที่มีความรู้ไปช่วยจะดีกว่ามาก
5. ยกรถขึ้น ขั้นตอนนี้ต้องใช้เครื่องมือเข้าช่วย แต่ถึงอย่างไรก็สำคัญมากที่สุด ต้องตรวจดูทุกจุดที่อยู่ใต้ท้อง เพราะนั่นหมายถึงชีวิตและทรัพย์สินของคุณทีเดียว
6. เดินเครื่องยนต์ สำรวจฟังเสียงรบกวน ลองหมุนพวงมาลัยดูราบลื่นดีหรือไม่ ฟังเสียงที่เกิดขึ้น ช่วงนี้ตรวจสอบระบบเกียร์ดูว่าผิดปกติหรือไม่ เพราะเป็นระบบที่เสียค่าใช้จ่ายสูงมากหากเกิดเสียขึ้นมา
7. ประตูหลัง ท้ายรถ ตรวจการทำงาน ดูอุปกรณ์ประจำรถ จุดนี้สามารถดูได้ว่ารถเคยถูกชนหลังหรือไม่ และอุปกรณ์ทำงานได้อย่างดีหรือเปล่า
8. ขับทดสอบ คงเป็นไปได้ยากถ้าคุณจะต้องตัดสินใจซื้อรถโดยไม่ทำการทดสอบเสียก่อน การขับทดสอบก็เพื่อดูระบบเกียร์ ระดับเสียงรบกวน ระบบเบรก ล้อและช่วงล่าง รวมทั้งการทำงานของหน้าปัดบอกความเร็วและระยะทาง
9. หลังลองขับ แล้วกลับมาดูใต้ท้องใหม่อีกครั้ง ว่ามีรอยรั่วซึม หรือชำรุดที่ใต้ท้องหรือไม่
10.ขาดไม่ได้เลย คือเอกสาร คู่มือผู้ใช้ สมุดทะเบียน การตรวจสอบประวัติบริการ กุญแจ รีโมท

เพราะฉะนั้นแล้วบ้านและรถมือสองจำเป็นมากสำหรับเศรษฐกินในปัจจุบันนี้ แต่ก่อนที่จะตัดสินใจนั้นควรที่จะตรวจสอบให้ดีก่อน เอความปลอดภัยที่จะเกิดตามมาในภายหลัง

คนส่วนใหญ่มีทัศนคติที่ดีต่อรถบ้านโดยไม่ค่อยมีอคติทั้งด้านราคาและสภาพเครื่อง

ความต้องการใช้รถของคนไทยมีมากยิ่งขึ้น

ประกอบกับผู้ผลิตเองก็สรรหาข้อเสนอที่เย้ายวนใจมาส่งเสริมการขายเพื่อเรียกลูกค้าให้ซื้อหารถกันมากขึ้น ทำให้หลายคนตื่นตาตื่นใจกับโปรโมชั่นที่หลายๆค่ายเสนอให้กับคุณ รู้ตัวอีกทีอาจเผลอไผลหลวมตัวซื้อรถที่ไม่เหมาะกับตัวเองมาใช้งานได้ ดังนั้นผู้ที่สนใจจะหารถซักคันมาเป็นยานพาหนะประจำกายควรพิจรณาหลายๆปัจจัยในการซื้อรถ เพื่อให้ได้สิ่งที่เหมาะสมกับตัวเองและถูกใจเรา ทั้งนี้ความเหมาะสมต่างๆก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ใช่เพียงแต่ความพึงพอใจในรูปลักษณ์ภายนอกหรือโปรโมชั่นเพียงอย่างเดียว

รถบ้าน หมายถึงรถที่เจ้าของขายเอง

จอดรถไว้ให้ดูที่บ้านหรือนัดแนะกันดูสภาพรถที่ไหนก็ตาม ถึงจะไม่ใช่นัดพบกันที่บ้านก็ยังเรียกว่าเป็นรถบ้าน ซึ่งเหมารวมถึงรถที่เจ้าของขายเอง คนส่วนใหญ่มีทัศนคติที่ดีต่อรถบ้านไม่ค่อยมีอคติทั้งด้านราคา และสภาพ คิดว่าจะมีราคาไม่แพง เพราะไม่ผ่านนายหน้า ทั้งที่เข้าของรถอาจเขี้ยวลากดินตั้งราคาตามหน้าเต็นท์เลยก็เป็นได้ หรือต้องมีสภาพดี ทั้งที่บางคันเจ้าของถลุงจนโทรมแล้วเต็นท์ไม่อยากรับซื้อจึงต้องมาประกาศขายเองก็เป็นได้ เมื่อคนส่วนใหญ่มีทัศนคติที่ดีต่อรถบ้าน และชะล่าใจเมื่อไปดูสภาพรถบ้านจากเจ้าของเดิมโดยตรง ผู้ค้าหรือเต็นท์รถมือสองก็เลยต้องสวมรอยเป็นรถบ้าน โดยเอารถไปจอดตามบ้านเช่าหรือบ้านคนรู้จักแล้วประกาศขายตามสื่อต่างๆ ปัจจุบันนี้มีการสวมรอบลักษณะนี้มากขึ้นเรื่อยๆเพราะจะขายได้ง่าย และถูกจับผิดน้อยกว่าการจอดขายตามเต็นท์

การซื้อรถบ้านใช้แล้วนั้นถ้าเรามีความละเอียดรอบคอบเพียงพอในการเลือกซื้อ ไตร่ตรองถี่ถ้วนก่อนการตัดสินใจซื้อก็จะทำให้เรามีความมั่นใจมากขึ้นว่าซื้อแล้วได้ใช้งานคุ้มค่า ซึ่งอาจเป็นเพราะเงินมีจำกัด อีกทั้งไม่อยากเป็นภาระมานั่งผ่อนทุกเดือน รถที่ใช้ก็ถือได้ว่าตอบสนองเราได้เป็นอย่างดีเพียงแต่เราดูแลบำรุงรักษารถให้ดี ก็ใช้ไปได้อีกนาน ขนาดที่คิดได้ว่าจะไม่ยอมขายจะใช้ให้พังคามือเลย เป็นธรรมดาสำหรับรถดีๆไม่จุกจิกกวนใจ กวนเงินในกระเป๋าเรา โดยเราควรมาดูว่ารถมือสองที่เราจะซื้อมีวิธีการเลือกอย่างไร เพราะการดูรถถ้าครบถ้วนตามกระบวนการอาจใช้เวลามากสักหน่อยแต่ก็คุ้ม

การเลือกซื้อรถบ้าน หรือ รถเต้นท์ ตลาดรถ

ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน ซึ่งข้อดีคือเราสามารถสอบถามกับผู้ใช้รถโดยตรงหรือเจ้าของรถบ้านว่าเขาใช้มาเป็นไงบ้าง ปัญหาที่เกิดขึ้นกับรถคันนี้มีอะไร ได้ข้อมูลที่ชัดเจนจากเจ้าของรถบ้าน สภาพการใช้งานเป็นยังไง ส่วนเรื่องราคาก็ถูกกว่าที่ซื้อจากรถเต้นท์ ตลาดรถ ศูนย์รวมรถมือสอง แต่ถ้าจะซื้อก็ต้องเปรียบเทียบราคาให้ดีก่อน บางทีเจ้าของรถอาจจะไปเช็คกับตลาดรถ เต้นท์รถ ตั้งราคาตามหน้าเต้นท์หรืออาจจะตั้งราคาน้อยกว่าเต้นท์นิดนึง

สำหรับการซื้อบ้านกับซื้อรถนั้นอย่างไหนสำคัญกว่ามาดูกันค่ะ

buying-home

เปิดประเด็นคำถามสุด Hot สำหรับหนุ่มสาวที่อยู่ในวัยทำงาน กำลังเริ่มก่อร่างสร้างตัว หลายคนทำงานมาหลายปี คงเริ่มมีเงินเก็บกันบ้างแล้วใช่ไหม อย่างน้อยๆ สัก 1-2 แสนก็น่าจะถึง แล้วเพื่อนๆเคยคิดไหมว่าจะนำเงินที่เก็บไว้ไปทำอะไรดี บางคนก็เลือกที่จะนำเงินไปลงทุน บางคนก็ฝันว่าจะซื้อรถยนต์ ไว้ใช้งาน นั่งสบายๆสักคัน นั่งรถเมล์มานานตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว บางคนคิดจะซื้อบ้านสักหลัง ฝันกันไว้เยอะเลยไม่ผิด ชีวิตคนปกติเรียนจบก็อยากมีบ้าน รถยนต์ และมีครอบครัวที่อบอุ่น แล้วเราจะซื้อบ้านหรือรถยนต์ก่อนดีคำถามนี้คล้ายๆกับคำถามว่าไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกันทำนองนั้น ขอตอบคำถามโดยแบ่งเป็นมุมมอง 2 แบบดังนี้

มุมมองที่ 1 ขึ้นกับเหตุปัจจัยความจำเป็นของแต่ละตัวบุคคล
เลือกซื้อบ้านหรือรถยนต์ก่อนก็ได้ครับ ตามความจำเป็นที่จะต้องใช้งาน และที่สำคัญที่สุดจะต้องไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น ยกตัวอย่างเช่น
– คุณมดดำเป็นคนรักสัตว์ชอบเลี้ยงสุนัขมากๆ กรณีของคุณมดดำ จำเป็นต้องตัดสินใจซื้อบ้านก่อนที่จะซื้อรถยนต์ เพราะคุณมดดำต้องการบ้านที่มีพื้นที่โดยรอบเพื่อเลี้ยงสุนัข
– คุณหยกเลือกที่จะซื้อรถยนต์ก่อนซื้อบ้าน เนื่องจากโครงการบ้านใหม่ๆ ตั้งอยู่ลึกเข้าไปในซอย ซึ่งเวลาจะเดินทางเข้าและออกจากบ้านแต่ละครั้ง หากไม่มีรถยนต์ไว้ใช้งานสักคัน ชีวิตต้องลำบากมาก อีกทั้งเวลาจะไปซื้อบ้าน ถ้าหากไม่มีรถยนต์พาไปซื้อบ้านก็ไม่สะดวกอีกเช่นกัน
– คุณโบนัสบอกว่า เราขอตัดสินใจซื้อบ้านก่อนซื้อรถดีกว่า เพราะบ้านและที่ดินมีมูลค่าเพิ่มตลอดทุกปี ถึงแม้บ้านจะเก่าลงก็ตาม อีกทั้งบ้านและที่ดินยังสามารถนำมาเป็นหลักประกันด้านการเงินได้อีกด้วย แต่ถ้าหากนำเงินไปซื้อรถยนต์ เมื่อเวลาผ่านไปแต่ละปี มูลค่าของรถยนต์ก็จะลดลงเรื่อยๆ ค่าบำรุงรักษาก็จะเพิ่มขึ้นทุกปีๆเช่นกัน ทุนประกันภัยของรถยนต์ก็จะลดลงทุกปีเช่นกันในขณะที่จ่ายค่าเบี้ยแพงขึ้นหรือจ่ายเท่าเดิมก็ตาม

มุมมองที่ 2 พิจารณาจากความยากง่ายในการซื้อบ้านและรถยนต์
ถ้าหากพิจารณาจากความยากง่ายในการซื้อ แน่นอนค่ะของทั้งสองสิ่งนี้ราคาหลักใกล้ๆล้านบาทหรือล้านบาทขึ้นไป แน่นนอนใช่ไหมน้อยคนที่ซื้อบ้านและรถยนต์ด้วยเงินสดในยุคนี้ ส่วนใหญ่ต้องอาศัยการขอกู้เงินจากธนาคารมาซื้อการอนุมัติสินเชื่อรถยนต์จะง่ายกว่าการอนุมัติสินเชื่อซื้อบ้าน เนื่องจากระยะเวลาการผ่อนชำระค่างวดรถยนต์ใช้เวลาเพียง 4-6 ปี ซึ่งสั้นกว่าระยะเวลาการผ่อนชำระค่าสินเชื่อกู้ซื้อบ้าน

ในการขอสินเชื่อซื้อรถยนต์ หากผู้กู้เงินเดือนไม่สูงมาก แต่ธนาคารดูแล้วพอจะมีความสามารถในการส่งค่างวดไหว อาจจะต้องใช้คนค้ำประกัน หรือขยายเวลาการผ่อนชำระให้ยาวที่สุด เพื่อให้จำนวนเงินที่ผู้ซื้อต้องส่งค่างวดแต่ละเดือนลดลง (แต่ดอกเบี้ยเพิ่ม) เพียงเท่านี้เพื่อนๆก็สามารถซื้อรถได้แล้วค่ะ

สำหรับการกู้ซื้อบ้าน ซึ่งมีการผ่อนชำระที่ยาวนานถึง 20-30 ปี ดังนั้นการที่ธนาคารจะปล่อยกู้นั้นธนาคารต้องประเมินความเสี่ยงค่อนข้างละเอียด หนี้สินต่างๆที่แสดงบนเครดิตบูโรซึ่งธนาคารจะนำมาประเมินโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อทั้งหมด

หมายความว่า หากซื้อรถยนต์ก่อนซื้อบ้าน ยอดเงินที่เรากู้ซื้อรถยนต์กับธนาคารนั้นๆ จะแสดงที่เครดิตบูโรด้วย ยกตัวอย่างเช่น นาย ก. เงินเดือน 20,000 บาท ซื้อรถยนต์คันละ 9 แสน ถึง 1 ล้านบาท ต้องส่งค่ารถยนต์ให้กับธนาคารโดยประมาณเดือนละ 12,000 บาท ทุกเดือนเป็นเวลา 5 ปี หนึ่งปีผ่านไป นาย ก. คิดที่จะซื้อบ้านสักหลังเป็นของตนเอง โดยมองหาจะซื้อบ้านทาวน์โฮม 2 ชั้น จากนั้นทำการยื่นเรื่องขอกู้เงินกับธนาคารเพื่อซื้อบ้าน เพื่อนๆคิดว่านาย ก. จะกู้ซื้อบ้านผ่านไหม ตอบอย่างรวดเร็วว่ากู้ไม่ผ่าน เป็นไปไม่ได้ เนื่องจากนาย ก. เหลือเงินไว้ใช้จ่ายเพียงเดือนละ 8,000 บาท หลังจากหักเงินที่ต้องผ่อนรถแล้ว

 

 

วางแผนการออมก่อนซื้อบ้านในฝัน

 

ในทุกวันนี้ บ้าน ซึ่งเป็นอสังหาริมทรัพย์ได้เป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่ง คนหลายคนอยากจะมีบ้านเป็นของตัวเองเพื่อส่งเสริมให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น แต่น้อยคนนักที่จะซื้อบ้านด้วยเงินสดได้ คนส่วนใหญ่จึงต้องอาศัยเงินกู้จากธนาคาร นั่นจะทำให้ภาระเงินกู้หนักขึ้น และทำให้คุณภาพชีวิตโดยรวมไม่ดีเท่าที่ควร เพราะต้องมีการจับจ่ายใช้สอยของใช้จำเป็นในชีวิตประจำวันของตนเองอีกด้วย ด้วยเหตุนี้เราจึงต้องวางแผนทางการเงิน การจะวางแผนทางการเงินเพื่อซื้อบ้านนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย จะต้องมีการวางแผนที่ดี อย่างแรกเราควรทราบราคาบ้านที่เราต้องการจะซื้อ แล้วมาคำนวณว่า รายรับที่เรามีอยู่สามารถซื้อและผ่อนบ้านได้หรือไม่ มีเงินดาวน์เพียงพอที่จะจ่ายให้กับเจ้าของโครงการหรือไม่ หรืออีกวิธีหนึ่งที่อยากจะแนะนำคือ นำรายได้ของเราที่มีอยู่มาคำนวณว่าเราจะสามารถซื้อบ้านแบบใด ราคาใดได้บ้าง

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ต้องคำนึงก่อนการจะซื้อบ้าน ต้องดูความพร้อมว่าเราพร้อมแค่ไหนเมื่อคิดจะซื้อบ้าน เพราะบ้านคือสิ่งที่เราซื้อมาพร้อมภาระก้อนโตที่จะอยู่กับเราเป็นสิบปีหรือยี่สิบปีเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นก่อนจะตัดสินใจซื้อบ้านควรคิดให้รอบคอบก่อนว่ามีความพร้อมกับภาระหนี้หรือไม่ และสิ่งที่จะช่วยเราได้ คือการออม การเก็บเงินออมเอาไว้สักก้อนเพื่อใช้เป็นค่าดำเนินการ ทำให้เราอุ่นใจมากกว่า หากเราไม่วางแผนเก็บเงินก้อนไว้สำรองไว้แต่แรก อาจทำให้พลาดโอกาสในการครอบครองบ้านในฝันของคุณก็ได้เมื่อมีบ้านแล้ว รถก็เป็นสิ่งที่ตอบสนองความต้องการ ด้วยสตางค์ในกระเป๋ามีจำกัดไม่อยากเป็นภาระมานั่งผ่อน รถยนต์มือสองจึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจสำหรับคนที่เพิ่งผ่อนบ้านไปหมาดๆ แต่การจะเลือกรถมือสองนั้นต้องตัดสินใจไตร่ตรองให้รอบคอบ ตรวจสอบรถให้ละเอียดถี่ถ้วนก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ ก็จะทำให้เราเกิดความมั่นใจได้ว่าเมื่อซื้อมาแล้วได้ใช้งานอย่างคุ้มค่า โดยเลือกตลาดที่ซื้อขายรถยนต์มือสองที่น่าเชื่อถือ เพียงเท่านี้ฝันที่จะมีบ้านและรถของคุณก็จะเป็นจริง